วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

กีฬาฟันดาบ

กีฬาฟันดาบ



ประวัติกีฬาฟันดาบสากล
ในสมัยยุคกลาง ( ศตวรรษที่ 5 ถึง 15 ) ดาบถูกใช้เป็นอาวุธในเชิงรุกใช้สำหรับทำลาย เกราะและเสื้อเกราะ ต่อมาใช้สำหรับการรบในระยะประชิดตัว หลังจากพ้นวิถีอาวุธปืน พัฒนาการของดาบนั้นดำเนินการต่อเนื่องมีใช้กันอย่างแพร่หลายในเอเชียและยุโรป เมื่อเกราะ ขนาดใหญ่เริ่มที่จะล้าสมัย ดาบจึงถูกใช้เป็นอาวุธสำหรับการตั้งรับและดีพอๆกับการใช้เป็นอาวุธในเชิงรุก ในศตวรรษที่ 16 ดาบชนิดเรียวตรงเริ่มเป็นที่รู้จักใน อิตาลี ศิลปะการใช้ดาบเริ่มแพร่หลายอย่างรวดเร็วอีกในหนึ่งดาบสั้นสองคมและโกร่งดาบได้ถูกพัฒนาให้มีส่วนหนาและบางเพื่อเป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของเกราะและได้ถูกนำเข้ามาเป็นเครื่องมือพิสูจน์ ความกล้าและเก่ง เช่นอัศวินผู้กล้าในสมัยโบราณโดยไม่ประสงค์ที่จะให้คู่ต่อสู้ถึงแก่ชีวิตในสนามประลองในทางปฏิบัติทั่วๆไปแขนที่ไม่มีดาบคือแขนซ้ายจะปล่อยเป็นอิสระ และพยายามทำแขนที่ถือดาบเป็นตัวปิดป้องเป้าหมายให้เหลือน้อยที่สุด
ประวัติฟันดาบในประเทศไทย
การฟันดาบในประเทศไทยเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2478 แต่ไม่ได้ดำเนินการมาโดยต่อเนื่อง จนถึงปี พ.ศ. 2508 กีฬาฟันดาบจึงได้รับความสนใจจากประชาชนแต่เป็นเพียงส่วนน้อย และค่อยๆ ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ สมาคมนักฟันดาบสมัครเล่นฯจึงได้เกิดขึ้น และได้แพร่หลายไปในต่างประเทศ
กีฬาฟันดาบถือได้ว่าเป็นกีฬาสมัยใหม่ที่สุด เพราะมีการพัฒนาที่เป็นวิวัฒนาการตามธรรมชาติ ผู้ที่เล่นกีฬานี้ยังคงพัฒนาตามวิวัฒนาการ เพราะจะยึดถือแบบอย่างเดิมอีกต่อไปไม่ได้ จำเป็นต้องมีแนวความคิดหรือหลักนิยมใหม่ที่เหมาะสมในการที่จะบรรลุความสำเร็จ ฟันดาบเป็นกีฬาที่มีค่านิยมน้อย แต่มีคุณธรรมสูง ซึ่งความนิยมอาจถึงจุดอิ่มตัว แต่คุณธรรมไม่รู้จักอิ่มตัวและย่อมแสวงหาให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น
การใช้ดาบชนิดเรียวตรงและเทคนิคดาบของอิตาลีได้แพร่หลายไปทั่วยุโรป เฉพาะในฝรั่งเศสและอิตาลีขนาดและรูปร่างของดาบชนิดเรียวตรงได้รับการปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ มีผลทำให้ความยาวและน้ำหนักถูกปรับแต่งจนจับถือได้สะดวกขึ้น ในศตวรรษที่ 18 ดาบขนาดเล็กหรือดาบเอเป้ได้ถูกสร้างขึ้นและแพร่หลายในฝรั่งเศสอาวุธชนิดใหม่นี้เป็นเป็นผลการรวมของลักษณะเด่นของดาบอิตาลีและฝรั่งเศสอิตาลีใช้ดาบชนิดเรียวตรงในการแสดงความกล้าหาญการใช้เสียงท่าทางที่ดูเข้มแข็ง ฝรั่งเศสใช้ดาบเอเป้ในลักษณะที่เป็นทางการมากๆการควบคุมการเคลื่อนไหวอย่างดีรูปแบบดาบของฝรั่งเศสเริ่มที่จะมีชื่อเสียงมากขึ้นกฎที่เป็นทางการส่วนใหญ่ที่ใช้ในการแข่งขันยุคสมัยใหม่และศัพท์ในรูปแบบต่างๆ ของดาบสากลส่วนใหญ่จะใช้ภาษาฝรั่งเศส
ในศตวรรษที่ 19 การต่อสู่โดยทั่วไปเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และโรงเรียนสอนฟันดาบเริ่มเปลี่ยนมาเป็นการสอนฟันดาบเพื่อการกีฬา อุปกรณ์ส่วนใหญ่ยังคงใช้และถูกพัฒนาในตอนนี้ด้วยรวมทั้งถุงมือที่สวมในข้างที่ถือดาบ ปลาสตอง ( เกราะอก) และหน้ากากที่ถักด้วยเส้นตาขายเหล็ก
กติกาฟันดาบ
การเริ่มต้นการแข่งขัน
ผู้แข่งขันทั้ง 2 ฝ่ายจะยืนหันข้างให้กับประธานการแข่งขัน โดยทั้งคู่จะยืนห่างจากเส้นแบ่งแดน 2 เมตรประธานกรรมการจะขานเตรียมพร้อม เมื่อผู้เข้าแข่งขันเตรียมพร้อมแล้วจะขานเริ่มแข่ง ประธานการแข่งขันจะขานหยุด เพื่อหยุดชะงักการแข่งขัน เมื่อ
1. มีการใช้ท่าอันตราย
2. ผู้เข้าแข่งขันไม่มีเครื่องป้องกัน
3. ผู้เข้าแข่งขันออกนอกพื้นที่เข้าแข่งขัน
ถ้าการแทงก่อนการหยุดชะงักเป็นการแทงที่ได้ผล ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2 ฝ่าย จะมายืนอยู่หลังเส้นป้องกัน แต่ถ้าเป็นการแทงที่ไม่ได้ผล จะเริ่มเล่นตรงจุดที่เกิดการชะงัก
การฟันก่อนที่ประธานจะกล่าวขานว่าเริ่มเล่น หรือจากขานว่าหยุด จะถือเป็นโมฆะ
ในการแข่งขันประเภทดาบฟอยล์และซาเบอร์โดยไม่ใช้อุปกรณ์แจ้งไฟฟ้า ผู้เข้าแข่งขันจะเปลี่ยนแดนกันเมื่อฝ่ายหนึ่งได้คะแนนครึ่งหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ประกอบด้วย
1. ประธานการแข่งขันทำหน้าที่ควบคุมการแข่งขัน
2. กรรมการให้คะแนน 4 คน ถ้าใช้อุปกรณ์แจ้งคะแนนไฟฟ้า จะใช้กรรมการให้คะแนน 2 คน
3. กรรมการบันทึกคะแนน
4. กรรมรักษาเวลา
ระยะเวลาการแข่งขัน
สำหรับประเภทชายใช้การแข่งขัน 6 นาที ผู้ชนะคือผู้ทำได้ 5 คะแนนก่อน ส่วนดาบฟอยล์หญิงใช้เวลาแข่งขัน 5 นาที ผู้ชนะคือผู้ที่ได้ 4 คะแนนก่อน ถ้าจบการแข่งขันแล้วได้คะแนนเท่ากัน ประเภทดาบฟอยล์และดาบซาเบอร์จะทำการแข่งขันกันต่ออีกหนึ่งรอบ ผู้ที่ได้คะแนนมากกว่าจะเป็นผู้ชนะ ส่วนประเภทเอเป้จะปรับแพ้ทั้งคู่
การให้คะแนน
คะแนนที่ได้จากการฟัน ( Hit ) ผู้เข้าแข่งขันจะต้องฟันคู่ต่อสู้ตรงเป้าหมายด้วยปลายดาบ ในประเภทดาบซาเบอร์การฟันถูกริมหรือบนสามส่วนแรกของขอบหลังของเป้าก็ถือว่าได้คะแนนในขณะที่ฟัน ผู้เข้าแข่งขันจะต้องอยู่ในพื้นที่เข้าแข่งขันเท่านั้นจึงจะได้คะแนน การแทงที่ออกนอกเป้าสำหรับดาบฟอยล์และดาบซาเบอร์จะนับว่าได้คะแนนถ้าผู้เข้าแข่งขันที่ถูกแทงเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อหลบหนีการถูกแทงตรงเป้าหมาย การแทงที่พลาดเป้าหมายจะทำให้จังหวะการแทงยุติลง
การฟันที่ได้คะแนน
ประธานกรรมการจะเป็นผู้ตัดสินการได้คะแนนจากการฟัน หรือลงโทษเนื่องจากทำผิดกติกา โดยกรรมการให้คะแนนจะใช้การยกมือเป็นสัญญาณเพื่อแจ้งต่อประธานกรรมการเมื่อมีการฟันที่ได้คะแนน ซึ่งการฟันจะต้องมีความแม่นยำและจังหวะดีจึงจะได้คะแนน
การโจมตีและป้องกัน
ในการแข่งขันประเภทดาบฟอยล์และซาเบอร์ การแทงที่จะได้คะแนนจะเกิดจากการเคลื่อนที่ที่ถูกต้อง และมีจังหวะที่ดีของผู้เข้าแข่งขัน โดยทั่วไปเมื่อถูกโจมตีฝ่ายรับจะต้องก้าวถอยหลังก่อนที่จะแทงตอบ ฝ่ายรุกคือผู้เข้าแข่งขันที่เหยียดแขนข้างที่ถือดาบฟันที่เป้าหมาย และยังเป็นฝ่ายรุกจนเมื่อฝ่ายรับถอยหลังตลอด ในกรณีของการโจมตีหลายจังหวะฝ่ายรับอาจจะฟันเพื่อให้ฝ่ายรุกหยุด โดยฟันตามจังหวะเมื่อถูกโจมตี คอยหันข้างย่อตัว ตั้งหลักก้าวรุก หรือใช้ทักษะผสมในการตอบโต้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วของการเคลื่อนที่ รวมทั้งจังหวะและความยากของการโจมตี ส่วนการแข่งขันประเภทดาบเอเป้ การฟันจะไม่มีจังหวะและไม่มีลำดับของการเคลื่อนที่นอกจากนี้ในการแข่งขันทุกประเภทอนุญาตให้เข้าโจมตีด้วยวิธีการก้าววิ่งได้
การทำผิดกติกาและการกำหนดคะแนนโทษ
1. การต่อสู้ประชิดตัวอนุญาตให้ทำได้ในกรณีที่ผู้เข้าแข่งขันถือและใช้อาวุธได้อย่างถูกต้อง
2. การปะทะตัวกันสำหรับการแข่งขันประเภทฟอยล์และซาเบอร์ จะใช้การเตือนเป็นการลงโทษครั้งแรก หลังจากนั้นถ้ากระทำผิดอีกจะถูกปรับเป็นถูกแทง 1 ครั้ง ส่วนประเภทดาบเอเป้ การปะทะตัวกระทำได้เมื่อไม่เจตนาและไม่รุนแรง
3. อนุญาตให้ผู้เข้าแข่งขันก้มตัวต่ำและหมุนตัวได้
4. มือที่ไม่มีอาวุธอาจแตะถูกพื้นสนามได้ แต่ถ้าผู้เข้าแข่งขันแตะถูกตัวกัน ประธานกรรมการอาจสั่งหยุด และให้จัดตำแหน่งใหม่
5. การฟันในจังหวะที่สวนกันถือว่าไม่ผิดกติกา แต่ถ้าหลังจากการที่สวนผ่านไปแล้วจะไม่นับคะแนน
6. การข้ามเขตแดนทำได้โดยประเภทดาบฟอยล์ต้องไม่เกิน 1 เมตรและไม่เกิน 2 เมตร สำหรับประเภทดาบเอเป้และซาเบอร์
7. การฟันนอกพื้นที่แข่งขันไม่นับคะแนน
8. การข้ามเขตแดนด้านข้างเพื่อหลบการฟัน จะถูกลงโทษเป็นการถูกแทง 1 ครั้ง ถ้าถูกเตือนมาก่อนแล้ว รวมทั้งการข้ามเขต หลังด้วย
9. การถ่วงเวลาการแข่งขันจะถูกเตือนและปรับเป็นถูกฟัน 1 ครั้ง
10. การฟันที่ไม่ถูกต้อง รุนแรง และไม่เหมาะสมจะถูกลงโทษโดยการเตือน
11. การไม่เชื่อฟังกรรมการครั้งแรกจะถูกเตือน ครั้งที่สองจะถูกปรับเป็นถูกฟัน 1 ครั้ง และถูกไล่ออกจากการ แข่งขันสำหรับครั้งที่สาม
12. อาวุธต้องถือด้วยมือข้างใดข้างหนึ่ง การเปลี่ยนมือถืออาวุธจะต้องขออนุญาตจากกรรมการก่อน
13. ผู้เข้าแข่งขันจะขว้างอาวุธไม่ได้ และมือจะต้องจับด้ามดาบเสมอ
14. ห้ามไม่ให้ใช้มือข้างที่ไม่ได้ถือดาบ เพื่อเป็นการป้องกันหรือโจมตี
15. การฟันที่ไม่ใช้มือข้างที่ถืออาวุธถือเป็นโมฆะ
16. การจงใจหรือเจตนาทำผิดกติกาอาจถูกคะแนนได้
ชุดและอุปกรณ์ฟันดาบ
1. ตัวดาบทำจากโลหะผสมมีความหยุ่นเหนียวไม่แข็งเปราะมีหลายเกรด ชนิดที่ได้รับการรับรองจาก FIE ในการแข่งขันระดับสากลเมื่อเวลาที่เกิดความเค้นในใบดาบมากจนหักจะมีรอยหักที่เรียบไม่มีคม มี ประเภทตามประเภทการแข่งขันได้แก่ oil, Epee และ Sabre Foilมีลักษณะเรียวเล็กหน้าตัดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสปลายดาบมีสวิทช์ต่อกับสายทองแดงอ่อน 1 เส้นฝังติดกับใบดาบ ใช้สำหรับแทง โกร่งดาบเป็นแผ่นจานวงกลมขนาดเล็กแบน
Epee มีขนาดใหญ่กว่า Foil หน้าตัดเป็นรูปตัว V ปลายดาบมีสวิทช์เช่นกันต่อกับสายทองแดงอ่อน 2 เส้น ใช้สำหรับแทง โกร่งดาบรูปทรงลักษณะคล้ายขันน้ำมีขนาดใหญ่กว่า Foil
Sabre มีลักษณะเพรียวบางแบนหน้าตัดคล้ายตัว I หรือ Y ปลายมนไม่มีสวิทช์และสายไฟ ใช้สำหรับฟัน (จะแทงก็ได้) โกร่งดาบลักษณะคล้ายกระบี่หวายของไทย
2. ชุดที่ใช้ในการแข่งจะมี 2 ส่วนคือเกราะอ่อน (Plastron) สวมชั้นในและเสื้อแข่ง (Jacket) กับกางเกงแข่ง (Breeches/Knickers) สวมชั้นนอกแต่ละชิ้นผสมเส้นใย Kevlar เหมือนกับที่ใช้ในเสื้อเกราะกันกระสุนสามารถรับแรงกด 800 นิวตันตามมาตรฐาน FIE สำหรับผู้หญิงจะมีเกราะพลาสติกแข็งใส่ชั้นในสำหรับป้องกันหน้าอก (Breast/Chest protector) และยังมีเกราะช่วงล่างสำหรับผู้ชาย (Under shorts) แต่ไม่ค่อยมีคนใช้กัน และมีสนับข้อศอก (Sabre elbow) สำหรับ Sabre ด้วย
3. รองเท้าออกแบบให้เหมาะกับลักษณะการก้าวเดินของท่าดาบส้นเท้าตัดเฉียงมีพื้นแข็งแต่ไม่ลื่นและไม่ฝืดเกินไปสามารถงอขึ้นได้ตามการขยับเท้าแบบปกติแต่จะงอลงได้ลำบากช่วยกันการบาดเจ็บจากการเดินสเต็ปของ Fencing บางรุ่นจะมีล๊อคข้อเท้ากันการพลิกด้านข้างด้วย
4. หน้ากาก (Mask) เป็นตาข่ายโลหะเคลือบสีบางรุ่นบริเวณช่วงตาจะใช้พลาสติกใสเพื่อเพิ่มทัศนวิศัยแต่ไม่เป็นที่นิยมนัก ส่วนป้องกันคอเป็นผ้าแบบเดียวกับที่ทำชุดแข่งรับแรงได้ 1600 นิวตัน กรณีของ Sabre จะเป็นโลหะไม่เคลือบสีและส่วนที่เป็นผ้าจะมีการทอเส้นโลหะผสมลงไปเพื่อนำไฟฟ้า
5. Body cord/Body wire เป็นสายไฟเชื่อมต่อระหว่างตัวดาบและเครื่องแต่งกายที่เป็นอุปกรณ์นำไฟฟ้ากับรอกสายไฟฟ้าสำหรับ Foil และ Sabre เป็นสายไฟ 3 เส้นปลายข้างหนึ่งเป็นหัวเสียบ 3 ขาต่อกับรอกสายไฟฟ้าอีกปลายแยกเป็น 2 เส้นต่อกับหัวเสียบ 2 หัวต่อกับตัวรับที่ดาบ และอีกเส้นจะเป็นตัวหนีบติดกับเสื้อไฟฟ้าสำหรับ Epee เป็นสายไฟ 3 เส้นปลายทั้งสองข้างเป็นหัวเสียบ 3 ขาต่อกับรอกสายไฟฟ้าและดาบ
6. เสื้อไฟฟ้า (Lames) สำหรับ Foil และ Sabre เป็นเสื้อที่มีการทอเส้นโลหะผสมอยู่ในเนื้อผ้ามีคุณสมบัตินำไฟฟ้าได้  สำหรับ Foil จะปิดเฉพาะลำตัวมีทรงคล้ายชุดว่ายน้ำแบบชิ้นเดียวของผู้หญิง สำหรับ Sabre จะมีทรงเป็นเสื้อแขนยาวและส่วนใต้เอวจะไม่นำไฟฟ้า
7. ถุงมือ (Glove) ทำจากผ้าและหนังทำให้การจับดาบกระชับไม่ลื่นและป้องกันการเสียดสีระหว่างมือกับด้ามจับ สำหรับ Sabre บางรุ่นจะมีการเสริมบริเวณหลังมือป้องกันการบาดเจ็บจากการตีที่มือ
8. ปลอกแขนไฟฟ้า (Sabre cuff) และถุงมือไฟฟ้า (Sabre glove) สำหรับ Sabre เป็นปลอกแขนทอเส้นโลหะแบบเดียวกับเสื้อไฟฟ้าใช้สวมทับถุงมือ บางแบบก็เป็นถุงมือใช้ใส่แทนถุงมือธรรมดา
9. คลิปหนีบหน้ากาก (Mask connector) เป็นสายไฟทองแดง 1 เส้นปลายสองข้างเป็นตัวหนีบใช้สำหรับเชื่อมวงจรระหว่างเสื้อไฟฟ้า Sabre กับหน้ากากไฟฟ้า
10. ถุงเท้ายาว (ควรเป็นสีขาว)
ประเภทของดาบ
กีฬาฟันดาบเป็นกีฬาที่พัฒนามาจากการใช้ดาบในการต่อสู้ของคนสมัยโบราณชาติที่มีชื่อเสียงในกีฬาฟันดาบ ได้แก่ ฝรั่งเศส อิตาลี โรมาเนีย เป็นต้น ดาบที่ใช้ในการแข่งขันแบ่งออกเป็น ชนิดคือ ดาบฟอยล์ ( The Foil ) ดาบเอเป้ ( The Epee ) และดาบซาเบอร์ ( The Sabre )
1. ดาบฟอยล์ ต้องหนักไม่เกิน 200 กรัม ส่วนที่เป็นใบต้องมีความยืดหยุ่นประมาณ      5.5  9.5 เซนติเมตร ถ้าแขวนของหนัก 200 กรัม ที่กระบังดาบ และใบดาบจะต้องคงตัวไม่ยืดหยุ่นจากปลายดาบ 70เซนติเมตร สำหรับดาบฟอยล์ไฟฟ้า แสงไฟจะปรากฎเมื่อมีแรงกดที่ปลายดาบมากกว่า 500 กรัม
2. ดาบเอเป้ หรือดาบดวลต้องหนักไม่เกิน 700 กรัม ใบดาบต้องเหยียดตรงให้มากที่สุด     มีความยืดหยุ่นตัวประมาณ 4.5 - 7 เซนติเมตร (วิธีวัดเช่นเดียวกับดาบฟอยล์) สำหรับดาบเอเป้ไฟฟ้า การฟันจะต้องใช้แรงกดที่ปลายดาบมากกว่า 750 กรัมแสงไฟจึงจะปรากฎ
3. ดาบซาเบอร์ ต้องหนักไม่เกิน 500 กรัม ใบดาบต้องไม่ยืดหยุ่นหรือตึงจนเกินไป ถ้ามีรอยโค้งต้องโค้งตลอดแนวน้อยกว่า 4 เซนติเมตร และต้องไม่โค้งในทิศทางเดียวกับสันดาบข้างที่ใช้ฟัน



ลิงค์เพิ่มเติม: http://www.youtube.com/watch?v=cD_caIcyTk8